สวัสดีครับทุกคน วันนี้ทีมงานอมารีมีหนึ่งจังหวัดที่น่าสนใจและอยากแนะนำให้ไปเที่ยวมากๆ มาแนะนำครับ นั้นก็คือ จังหวัดบุรีรัมย์ หากได้ยินชื่อจังหวัดนี้ หลายๆ คนคงจะคิดว่ามีดีแค่สนามฟุตบอล … แต่ขอบอกเลยว่าคุณคิดผิด! เพราะที่นี่มีอะไรให้เราดูและทำเยอะมาก ผมรับประกันได้เลยว่า คุณจะต้องหลงรักจังหวัดนี้อย่างไม่รู้ตัว!
ทริปในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่มีชื่อว่า #DiscoverAmari #Live ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 – 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยพวกเราทีมงานอมารีได้ออกเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่เที่ยวต่างๆ ในบุรีรัมย์และอัพเดทการเดินทางแบบสดๆ ผ่านทางโซเชียลมีเดีย เราเดินทางกันโดยรถยนต์ จากกทม. – บุรีรัมย์ ใช้เวลาประมาณ 4 ซม. หรือใครที่ต้องการความรวดเร็วก็สามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 50 นาที … หากพร้อมแล้วไปดิสคอฟเวอบุรีรัมย์พร้อมๆ กันเลย!
วัดเขาพระอังคาร อ.เฉลิมพระเกียรติ
สถานที่แรกที่เราเดินไปเยี่ยมชมคือวัดเขาพระอังคาร ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาไฟที่ดับแล้ว ในประวัติลายแทงธาตุพนมกล่าวว่าเมื่อ พ.ศ. 8 มีการนำพระอังคารธาตุ ของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานที่เขาลูกนี้ ต่อมาจึงได้สร้างวัดและนำพระอังคารธาตุขึ้นมาบรรจุในสถูปบนยอดของอุโบสถของวัดครับ
จุดเด่นของวัดแห่งนี้คือสถาปัตยกรรมของอุโบสถที่สวยและแปลกตาไม่เหมือนวัดทั่วๆ ไป เป็นซึ่งเป็นการผสมผสานของศิลปะจากหลายๆ สมัยเข้าด้วยกัน ภายในวัดยังมีโบราณวัตถุสำคัญคือใบเสมาหินบะซอลท์สมัยทวารวดีที่ตั้งอยู่รอบอุโบสถซึ่งพบเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย มีอายุประมาณ 1,300 ปี เป็นหลักฐานว่าที่นี้เคยเป็นพุทธสถานมาแต่โบราณ เรียกได้ว่าเป็นวัดที่สวยงามแปลกตา หากมาบุรีรัมย์แล้วไม่มาที่นี้คือมาพลาดหนักมากครับ!
ภายในโบสถ์ก็สวยงามและแปลกตาไม่เหมือนวัดอื่นๆ ครับ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังและเรื่องราวพุทธชาดกเป็นภาษาอังกฤษด้วย
อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ
จากวัดเขาพระอังคารเราก็เดินทางกันต่อไปยังที่สุดของไฮไลท์ของบุรีรัมย์ ใครไม่ได้มาที่นีี่ … อย่าไปคุยกับใครเลยว่า “ฉันไปเที่ยวบุรีรัมย์มาแล้ว” นั้นก็คือ อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง หรือ ปราสาทหินพนมรุ้ง ครับ โดยใช้เวลาขับรถจากเขาพระอังคารมาไม่นานเลย จอดรถแล้วต้องเดินขึ้นเขาไปอีกสักพักครับ
อากาศบนนี้ร้อนพอสมควรเลย แนะนำให้พกร่มหรือหมวกขึ้นมาด้วย แม้อากาศจะร้อนระอุแค่ไหนแต่สถานที่แห่งนี้ก็ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้พวกเราได้เยอะทีเดียว นับว่าเป็นโบราณสถานที่สวยงามและยิ่งใหญ่ (ทำให้ผมอดนึกไม่ได้ว่าคนสมัยนั้นสร้างได้ยังไง เครื่องจักรเครื่องทุ่นแรงก็ไม่ได้มีเยอะเท่าตอนนี้) ปราสาทหินพนมรุ้ง ตั้งอยู่บนยอดภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วเช่นกันครับ โดยคำว่า พนมรุ้ง นั้นมาคำภาษาเขมรคือ วนํรุง แปลว่า ภูเขาใหญ่ และทุกๆปี ที่นี่ก็มีประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้ง ชมแสงอาทิตย์ลอด 15 ช่องประตู (ช่องประตูแต่ละบานตั้งตรงกันเป๊ะๆ ผมนี้อึ้งและทึ่งในความสามารถของคนสร้างจริงๆ!)
ค่าเข้าชม 20 บาท สามารถเข้าชมได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
ใครที่ลงมาจากปราสาทแล้วเกิดหิวขึ้นมา บริเวณที่จอดรถก็มีร้านอาหารอยู่ 3 – 4 ร้านครับ แวะไปฝากท้องเติมพลังกันได้
ปราสาทหินเมืองต่ำ อ.ประโคนชัย
เดินทางกันต่อไปยังปราสาทลำดับที่ 2 นั้นก็คือ ปราสาทหินเมืองต่ำ เมื่อเดินทางมาถึง ก็ถึงบางอ้อว่าทำไมเรียกว่าปราสาทเมืองต่ำ เพราะตั้งอยู่บนพื้นราบหรือที่ต่ำ (ไม่ได้อยู่บนเขาเหมือนพนมรุ้ง) พื้นที่ของตัวประสาทไม่ใหญ่มากครับ สามารถเดิมชมได้รอบในเวลาไม่นาน
ปราสาทหินเมืองต่ำ เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย เนื่องจากมีการขุดพบศิวลึงค์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะเทพเจ้าสูงสุดในลัทธิไศวนิกาย ตัวปราสามมีปรางค์องค์ใหญ่ตรงอยู่ตรงกลางและล้อมรอบด้วยปรางค์บริวารขนาดเล็กตั้งอยู่ 4 มุม สวยงามและสงบร่มรื่นมากๆ
ที่นี่มีค่าเข้าชม 10 บาท เปิดให้เข้าชมทุกวันระหว่างเวลา 7.30-18.00 น.
อมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
จากปราสาทเมืองต่ำเราเดินทางต่อไปยังที่พักของพวกเราสำหรับทริปนี้ครับ … จะเป็นที่ไม่ได้นอกจากโรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โรงแรมในธีมฟุตบอลแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาจักรของทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผมขอเรียกที่นี่ว่าอาณาจักรเพราะมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก มีทั้งสนามฟุตบอล สนามแข่งรถ โรงแรม คอมมูนิตี้มอลล์ และตลาดคนเดิน
โรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีห้องพักทั้งหมด 60 ห้อง 1 ห้องอาหาร สระว่ายน้ำ และฟิตเนส สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือการตกแต่งที่ผสมผสานเข้ากับความเป็นทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่ว่าจะเป็นสีฟ้าเข้มซึ่งเป็นสีประจำทีม ชุดแนวสปอร์ตของพนักงาน และที่ว๊าวที่สุดต้องยกให้ภาพนักฟุตบอลที่ใช้ตกแต่งในห้องพัก หากใครเป็นแฟนคลับทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ต้องเป็นปลิ้มอย่างแน่นอน จากตัวโรงแรมสามารถเดินไปสนามฟุตบอล ตลาด และคอมมูนิตี้มอลล์ได้สบายๆ โรงแรมมีจักรยานให้ยืมด้วยนะครับ
เช็คอิน ล้างหน้าล้างตาเรียบร้อยแล้วเราก็มาทานมื้อค่ำที่ห้องอาหาร Kick Off ของโรงแรม ซึ่งให้บริการอาหารเช้าแบบบุฟเฟ่ต์ ส่วนมื้อกลางวันและเย็นให้บริการแบบ a la carte มื้อนี้ผมขอแนะนำเมนู signature สัก 2 เมนูนะครับ เพราะอร่อยประทับใจจริงๆ
เมนูแรกคือ Buriram Sausage ไส้กรอกหมูสูตรลับ สั่งทำพิเศษโดยเฉพาะ ทานกับน้ำจิ้มแจ่วหรือน้ำจิ้มลูกชิ้นสไตล์บุรีรัมย์รสชาติเข้มข้น ทานพร้อมผักและเครื่องเคียงต่างๆ อร่อยเวอร์ อร่อยจริงจัง
เมนูที่ 2 คือ สปาเก็ตตี้ไส้กรอกอีสาน สปาเก็ตตี้เส้นเหนี่ยวนุ่ม คลุกเคล้ากับซอสรสชาติกลมกล่อม มีรสเผ็ดร้อนนิดๆ ทำให้ไม่เลี่ยนจนเกินไป ผสมความเป็นอีสานเข้าไปด้วยไส้กรอกอีสาน อร่อยกลมกล่อมครับ
ไนท์เซราะกราว
จุดต่อไปคือตลาดคนเดินซึ่งอยู่ใกล้ตัวโรงแรมเลย นั้นก็คือตลาดไนท์เซราะกราว ตลาดนัดยามค่ำคืนเล็กๆ ที่มีทั้งโซนตลาดสด ร้านค้า ร้านอาหาร เปิดบริการทุกวัน ดังนั้นมาพักที่อมารีไม่ต้องกลัวเรื่องอาหารการกินเลย เพราะมีให้เลือกทานมากมาย บรรยากาศก็ดีด้วย ช่วงเย็นๆ ชาวบุรีรัมย์ก็จะมาเดินเล่น ซื้ออาหารแล้วมานั่งทานกันตรงสวนหน้าตลาด ครึกครื้นที่เดียวเชียว
วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง
เริ่มต้นเช้าวันที่ 2 พวกเราตื่นแต่เช้าเพื่อขึ้นไปชมปล่องภูเขาไฟครับ!! แต่เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้วน่ะที่ วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ โรงแรม ผมเห็นมีแขกบ้างท่านยืมจักรยานของโรงแรมปั่นขึ้นมา ถือเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย
วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ยังคงปรากฏร่องรอยปากปล่องให้เห็นได้ชัดเจน จากรูปข้างล่างจะเห็นว่ามีร่องหลุมขนาดใหญ่อยู่ นั้นแหละครับปากปล่องภูเขาไฟ สามารถเดินชมจากมุมสูงได้เพราะมีสะพานแขวนทอดยาวให้เราเดินขึ้นไปชม
บนยอดเขากระโดงก็ยังมีอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ต้องขึ้นไปชมครับ คือ พระสุภัทรบพิตร พระพุทธรูปองค์ใหญ่คู่เมืองบุรีรัมย์ มีวิวสวยๆ ให้ชมด้วย ขึ้นมาบนนี้ถือเป็นการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่สดชื่นมาก
Buriram Castle
จากนั้นเราก็กลับมาที่โรงแรมเพื่อชมสถานที่ต่างๆ ภายในอาณาจักรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เริ่มต้นจากที่นี่เลย Buriram Castle ไลฟ์สไตล์ คอมมูนิตี้มอล์แห่งล่าสุดของบุรีรัมย์ ไฮไลท์คือปราสาทหินพนมรุ้งขนาดจำลองเท่าของจริง! แค่มองจากไกลๆ ก็สวยงามแล้ว ภายในก็มีร้านค้า ร้านอาหารมากมายให้เลือกช๊อปเลือกทาน เดินไปอีกนิดก็ยังมีสวนตะบองเพชรขนาดใหญ่ เรียกได้ว่าที่เดียวครบ สะดวกสบายสุดๆ
ธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดียม
ไฮไลท์สำคัญที่พลาดไม่ได้ของทริปนี้ คือ สนามไอ-โมบาย สเตเดียม (ชื่อตามสปอนเซอร์) หรือ ธันเดอร์ คาสเซิล สเตเดียม (ชื่อสนามจริง) บ้านของทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีความจุ 32,600 ที่นั่ง สวยงามยิ่งใหญ่อลังการ สมกับเป็นบ้านของทีมแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกจริงๆ! ที่สนามมีการจัดทัวร์เดินชมสนามในทุกวันด้วยครับ ยกเว้นวันที่มีแข่งนัดเหย้า ตั้งแต่เวลา 9.30 – 16.00 น
ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต
มาต่อกันที่อีกหนึ่งสนามนั้นก็คือ ช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สนามแข่งรถมาตรฐานสมาพันธ์รถยนต์นานาชาติ (FIA) ซึ่งเป็นระดับสนามที่อนุญาตให้ใช้จัดการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง (ฟอร์มูลาวัน) ได้ ที่นี่ยังเป็นสนามที่สามารถแข่งรถตอนกลางคืนได้แห่งเดียวในประเทศไทยอีกด้วย หากไม่มีโปรแกรมแข่งเราสามารถเข้าชมได้ทุกวันครับ
ภายในอาณาจักร Buriram United นอกจากโรงแรมอมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แล้วก็ยังมีโรงแรมบริค บ๊อกซ์ บุรีรัมย์ (Bric Box) โรงแรมขนาดกะทัดรัดที่ตั้งอยู่ขอบสนามแข่งรถช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เลยครับ จากภายในห้องพักเราสามารถมองเห็นวิวสนามแข่งรถได้แบบใกล้ชิดสุดๆ ไปเลย มีแอร์และห้องน้ำในตัว
จากนั้นเราก็ขับเข้าในตัว อ.เมือง เพื่อชมสถานที่สำคัญอีกนิดหน่อยครับ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สร้างในปีพ.ศ. 2539 เพื่อเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 1 ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี ผู้ทรงก่อตั้งเมืองบุรีรัมย์
ใกล้ๆ กับพระบรมราชานุสาวรีย์ก็จะมีอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของที่นี่ คือ “เมืองแปะ โอทอป @ บุรีรัมย์” ซึ่งมีสินค้า OTOP คุณภาพจากชุมชนต่างๆ ในบุรีรัมย์ให้นักท่องเทียวเลือกซื้อกลับบ้านครับ
แผนที่สรุปการเดินทางของทริปนี้ครับ
จบแล้วครับ! ทริป #DiscoverAmari Live ที่ จ.บุรีรัมย์ของเราในครั้งนี้ ขอสรุปสั้นๆ ว่าบุรีรัมย์เป็นจังหวัดที่น่าเดินทางมาสัมผัสมากๆ สักครั้ง เพราะครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ธรรมชาติ หรือการกีฬา มาสักครั้งแล้วคุณติดใจแน่นอน! ทริปหน้าเราจะไป #DiscoverAmari กันต่อที่ไหน ติดตามกันได้ทาง Facebook แฟนเพจอมารีครับ